ในช่วง 30 ปีที่ผ่านมา ผมได้พบเจอจิตแพทย์มาจำนวนมากและได้รับการบำบัดหลายอย่าง แต่ก็ยังไม่สามารถทำให้อาการทางจิตเวชหายขาดได้เช่น ความวิตกกังวลเรื้อรัง จมกับอารมณ์เป็นเวลานาน ปรับอารมณ์ได้ยาก ย้ำคิดย้ำทำ มีอาการซึมเศร้าบ้าง ในช่วง 2-3 ปีหลังอาการวิตกกังวลเป็นมากขึ้นและได้กลายมาเป็นอาการแพนิค แต่ก็ยังโชคดีที่ มีบุคคลในครอบครัว และเพื่อนๆ เข้าใจ และให้กำลังใจเสมอมา ผมรู้สึกขอบคุณมากๆ
สำหรับชื่อโต๋เต๋ ผมได้มันมาจากคำแนะนำของคุณหมอท่านหนึ่งบอกว่า คุณหัดเดินเล่น เดินโต๋เต๋บ่อยๆสิ เดินแบบไม่คิดอะไรมาก ใจจะสบายขึ้นนะ
อาการแพนิค นี้ของผมมันจะเป็นๆ หายๆ ขึ้นอยู่กับความท้าทายที่เข้ามาในชีวิต สภาพร่างกายในตอนนั้น และขึ้นกับวิธีจัดการกับความคิดของตนเอง ในปัจจุบันผมจึงไม่ขอตั้งเป้าหมายที่จะทำให้หายขาดจากโรคทางจิตเวชนี้ เพียงสามารถอยู่ร่วมกับอาการวิตกกังวลแบบเฉียบพลันหรือแพนิคได้ก็พอแล้ว หันมาใช้เวลาให้เป็นประโยชน์ต่อผู้อื่นอย่างไม่หวังอะไรตอบแทน แต่ก็เผลอหวังบ้างเหมือนกันนะครับ การเขียนประสบการณ์ในการเผชิญกับอาการแพนิคนี้ น่าจะมีประโยชน์ต่อตนเองและผู้อื่นไม่มากก็น้อย
การได้เขียนหนังสือเปรียบเหมือนกับการบำบัดบรรเทาอาการอย่างหนึ่งครับ พอได้เขียน ก็ได้รู้เท่าทันพฤติกรรมของตนเองได้ดีขึ้น มีโอกาสทำตัวเองเป็นผู้สังเกตจากวงนอก มีโอกาสตรวจสอบความคิด ความรู้สึกตนเอง และเริ่มจะตัดวงจรอาการนี้ได้เร็วยิ่งขึ้น ไม่ปล่อยให้อาการเป็นมาก เพราะมันจะยากมากขึ้นที่จะฟื้นตัวสู่สภาพปกติ หากต้องการแชร์ความคิดใด ๆ สามารถคลิกลิงค์ด้านล่างคุยกับโต๋เต๋ได้ครับ บุญกุศลใดๆ ที่เกิดขึ้นจากการเขียนบทความนี้ ขออุทิศให้คุณแม่ของผมที่ได้ล่วงลับไปแล้ว